Sunday, February 22, 2015

MBTA.. รถเมล์/BTS/MRT..ในบอสตัน!

คนในบอสตัน เขาเดินทางกันยังไงบ้างน้าา..
เขามีรถเมล์ รถไฟฟ้าบนดิน ใต้ดินเหมือนไทยเราป่าวหว่า???

ตอบ.. มีค่ะ แต่มันมีความต่างกันนิดหน่อยนะ

รถประจำทางทั้งหมดที่ว่ามาข้างต้น เจ้าของมีเจ้าเดียว คือ MBTA (Massachusetts Bay Transportation Authority) ทั่วบอสตันเลยค่ะ


จากแผนที่จะเห็นว่าเส้นทางรถมีหลายสีมาก 
- รถไฟฟ้าจะมี 4 สายค่ะ คือ สายเขียว สายแดง สายส้ม และสายฟ้า
- รถบัส หรือ รถเมล์ จะเป็นสายเงิน และ สายเหลืองที่มีตัวเลขกำกับ
- รถไฟ จะเป็นสายม่วง

ก่อนอื่น เบสท์ขอภูมิใจนำเสนอ.. รถไฟฟ้ามหัศจรรย์ ค่ะ! 

สำหรับเบสท์มันวิเศษมากตอนเห็นครั้งแรก เพราะรถไฟฟ้าที่นี่วิ่งทั้งบนถนน (วิ่งไปกับรถยนต์เลย) วิ่งใต้ดิน และลอยฟ้า ในคันๆ เดียวกัน! (รู้สึกตัวเองบ้านนอกมาก๕๕)

บางคนอาจจะงงๆ ใช่มั้ยคะ คือ รถไฟจะวิ่งบนราง ซึ่งรางนั้นจะอยู่บนดิน ใต้ดิน หรือลอยฟ้า ขึ้นอยู่กับลักษณะของสถานีนั้นๆ เช่น

สถานี Washington street (B line) จะอยู่บนดิน และอยู่หน้าโรงเรียน BIA ของเบสท์เองค่ะ (โรงเรียนภาษาที่เบสท์เรียนอยู่) เราต้องมายืนรอรถอยู่ข้างๆ รางรถไฟ จะมีที่ยืนรอคล้ายเป็นป้ายรถเมล์บ้านเรา

ป้ายสถานี Washington st

ป้ายยืนรอรถไฟ ไม่มีเก้าอี้เหมือนป้ายรถเมล์บ้านเรานะคะ:(
ป้ายยืนรอรถไฟ รางรถไฟ มีสายๆ ไว้ให้รถไฟไต่เหมือนรถรางเลย


เย่! รถไฟมาแล้ว^^

ที่ติ๊ดบัตร (รับเงินสดกับบัตรรถไฟค่ะ)
หลังผ้าม่านมีคนขับด้วยนะคะ

ภายในรถไฟ

สถานี Park street รางรถไฟจะอยู่ใต้ดินค่ะ
สถานี Park street (รถไฟวิ่งใต้ดินจ้า)
ส่วนสถานีลอยฟ้า เบสท์ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย แหะๆ แต่ถ้าใครมาบอสตันแล้วอยากเห็นก็ไปดูได้ที่ Science Park station (สายเขียว) นะคะ

สายที่สำคัญที่สุดของเบสท์คือ สายเขียว ค่ะ 
เพราะเบสท์ใช้บ่อยมากที่สุด โรงเรียน BIA และบ้านเบสท์อยู่สายนี้หมดเลย ลักษณะของสายเขียวจะพิเศษกว่าสายอื่นคือ แยกออกเป็นสายย่อยๆ เป็น 4 สาย ดังนี้ B line, C line, D line, and E line ค่ะ ทั้งสี่สายนี้จะบรรจบกันที่สถานี Copley จ้า

ถ้ายังงง เบสท์ขอเปรียบเทียบกับ BTS นะคะ B line = หมอชิต, C line = วงเวียนใหญ่, D line = บางหว้า และทั้งสามสายนี้ จะบรรจบกันที่ สถานี Copley = สถานีสยาม

สถานีสำคัญๆ บนสายเขียว ของเบสท์ มี 3 ที่..
- Park street สถานีที่สำคัญมากที่สุด (ในความคิดเบสท์) เพราะเป็นสถานีเชื่อมกับรถไฟฟ้าทุกสี และมีสถานที่เที่ยวเล่นเยอะค่ะ เช่น โรงหนัง ลานไอซ์เสก็ต ห้างสรรพสินค้า ผับบาร์ และที่สำคัญ Quincy Market สวรรค์แห่งอาหารของเบสท์อยู่ที่นี่ค่ะ อิอิ
- Copley ห้างโปรดของเบสท์ Prudential Center ห้างเขาสวยน่าเดิน อาหารอร่อย Sephora ก็จัดผังร้านดึงดูดเบสท์ให้เดินอยู่ในนั้นทั้งวัน บรรยากาศน่าเล่นเครื่องสำอางที่สุด นอกจากนี้ยังมี Newbury street มี shop ของแบรนด์เนมเพียบ!
- Lechmere มีห้างโปรดอีกที่คือ Cambridgeside Galleria ห้างใหญ่ และเบสท์ซี้กับพนักงานร้านแว่นที่นี่ด้วย เลยได้สิทธิพิเศษเล็กน้อย๕๕

มหาวิทยาลัยดังๆ อยู่ไหนบ้างน้าา..
Boston University กับ Boston College อยู่บน B line
Northeastern University, Berklee college of music, New England Conservatory of music บน E line
Harvard University, MIT อยู่บนสายแดง
U mass อยู่บนสายฟ้าค่ะ

ทีนี้.. บัส หรือเรียกง่ายๆ ว่า รถเมล์

สถานีขึ้นรถบัส มีอยู่บนดิน และ ใต้ดิน ค่ะ

ส่วนใหญ่เป็นสถานีบัสบนดิน จะขึ้นก็มองหาป้ายรถบัส ซึ่งจะมีตัว T เป็นโลโก้ของ MBTA ค่ะ และสายรถบัส
รถบัสเขาค่อนข้างตรงเวลาเลยค่ะ สะดวกมาก! อยู่ที่นี่ จะไปไหนมาไหน ก็ถามหาเส้นทางการเดินทาง จากอากู๋กูเกิลแมพอย่างเดียวเลยค่ะ เดินทางไม่ยากและไม่มีหลงทางแน่นอน:)

ป้ายรถบัส

สถานีบัสใต้ดิน เช่น สถานี Harvard อยู่บริเวณ Harvard University ด้วยนะคะ ซึ่งสถานีนี้มีทั้งรถไฟสายแดง และ รถบัส ค่ะ

สถานี Harvard
 มองหาป้ายทางเข้าสถานีบัส
ป้ายทางเข้าสถานีบัส

สายรถบัสที่ให้บริการที่สถานี Harvard

ทางขึ้นรถบัส

ตารางเที่ยวรถบัสหน้าทางขึ้นรถบัส
รถมาแล้ว!

บนรถบัส ไม่มีกระเป๋ารถเมล์ มีแต่เครื่องติ๊ดบัตร (รับเงินสดกับบัตรรถเท่านั้น)

รถไฟสายม่วง หรือที่เรียกว่า Commuter Rail?

เป็นรถไฟแบบ..อืมม..แบบ..ฉึกกะฉักๆ ปู๊นๆ น่ะค่ะ
สถานีศูนย์กลางอยู่ที่ North Station สามารถนั่งสายเขียว, ส้ม, และแดง มาลงที่นี่ได้ค่ะ

รถไฟสายม่วง ฉึกกะฉักๆ ปู๊นๆ
รูปนี้ถ่ายที่สถานี Medford ยังไม่ใช่ North Station นะคะ
ถึงแล้ว North Station!!!
สถานี North Station
ในพื้นที่ส่วนเชื่อมต่อรถไฟสายเขียว ส้ม และแดง

ห้องเจ้าหน้าที่ที่สถานี North Station
ในพื้นที่ส่วนเชื่อมต่อรถไฟสายเขียว ส้ม และแดง

จอแสดงตารางเวลาเที่ยวรถไฟ

ส่วนนั่งรอรถไฟ
ยืนรอรถไฟ

ส่วนขึ้น-ลงรถไฟ ที่สถานี North Station

ที่นั่งในรถไฟ
 ถ้าขึ้นที่สถานีอื่นๆ เช่น สถานี Medford ไม่ได้เป็นสถานีสวยๆนะคะ เราจะต้องยืนตากหิมะรอค่ะ บรื๋อ~

ที่ยืนรอรถไฟที่สถานี Medford

หนาวเว่อร์ๆ

ขึ้นรถไฟกันเถอะ!

แล้วจะเริ่มต้นใช้บริการ MBTA ยังไง???

ก่อนอื่นไปซื้อตั๋วจ้า! แล้วจะต้องทำไงบ้าง?
อย่างแรกคือ เราต้องรู้จักตั๋วรถไฟก่อน ว่าเป็นยังไง? มีแบบไหนบ้าง?

ตั๋วรถไฟจะมี 2 ประเภท ให้เราเลือกใช้คือ

1) CharlieCard
เป็นบัตรแข็ง เหมือนบัตรแรบบิด BTS เลยค่ะ
มีให้เลือกใช้ 2 แบบคือ เติมเงิน (Add Value) และ เหมาจ่าย (Passes)

CharlieCard และเครื่องติ๊ดบัตร

วิธีใช้ ติ๊ดบัตรเข้าเหมือนบัตร BTS

ส่วนตัวบัตรต้องไปขอกับเจ้าหน้าที่นะคะ ขอได้ที่สถานีใหญ่ๆ เช่น Park street, Harvard, และ North Station ค่ะ
**บัตรขอฟรีนะจ๊ะ แต่ไปเติมเงินเอาเอง**


ประชาสัมพันธ์ของสถานี North Station
ในส่วนของสถานีรถไฟสายม่วง หรือ Commuter Rail
ขอบัตร CharlieCard ได้ที่นี่
วิธีซื้อ มี 2 วิธีคือ
- เว็บไซต์ https://commerce.mbta.com/
- เครื่องซื้อตั๋ว มีเฉพาะสถานีใต้ดินนะคะ โดยเราจะเอาบัตรไปติ๊ดที่เครื่องซื้อตั๋วเองเลย (ไม่ต้องติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่) จ่ายได้ทั้งแบบ เงินสด, บัตรเดบิต, หรือบัตรเครดิต ก็ได้

เครื่องซื้อตั๋ว
ติ๊ดบัตรที่เครื่องซื้อตั๋วตามรูปเพื่อทำรายการต่อ
หน้าจอเครื่องซื้อตั๋ว เป็นจอสัมผัส

2) CharlieTicket 
เป็นบัตรอ่อน เป็นกระดาษแข็งเคลือบมัน

CharlieTicket
แบบรายเดือน ประจำเดือน พย.14

วิธีใช้ มี 2 วิธี คือ
- เสียบบัตรที่เครื่องติ๊ดบัตร (วิธีมาตรฐานที่พึงจะทำ)
- โชว์บัตรให้เจ้าหน้าที่ดู
ใช้วิธีนี้ได้ทุกที่ยกเว้น.. สถานีใต้ดิน และ เจอเจ้าหน้าที่ขาโหด เราจะต้องเสียบบัตรเท่านั้ัน!

CharlieTicket และเครื่องติ๊ดบัตร

วิธีซื้อ ซื้อที่เครื่องซื้อบัตรเท่านั้น

1) จิ้มที่ Purchase new CharlieTicket

หน้าจอซื้อตั๋ว อีกรอบค่ะ

2) จิ้มเลือกรายการที่ต้องการ


เบสท์เลือกแบบ Passes

เบสท์เลือก 1 or 7 Day LinkPass

เบสท์เลือก 1 Day LinkPass

เลือกวิธีจ่ายเงิน
 3) รับบัตรหลังจ่ายเงิน

ตั๋วของฉันมาแล้ว!

อัตราค่าบริการของ MBTA???

อัตราค่าบริการของ MBTA

จากรูปรถ 3 ช่องบนนั้น
ราคาตั๋วจะแบ่งออกเป็น 3 แบบตามประเภทรถที่นั่ง คือ บัสเท่านั้น, รถไฟฟ้าเท่านั้น, เหมาทั้งบัส+รถไฟฟ้า+รถไฟ ตามลำดับ

จากแถบน้ำเงิน
SINGLE RIDE = ราคาตั๋วรอบเดียว
PASSES = ราคาตั๋วเหมาจ่าย

จากคอลัมน์ Single Ride
ราคา CharlieCard และ CharlieTicket เป็นราคาปกติ
Senior คือ ราคาผู้สูงอายุ และ Student ราคานักเรียน/นักศึกษา 
หมายเหตุ นักเรียนจากโรงเรียนสอนภาษา ต้องซื้อตั๋วราคาปกตินะคะ

จากคอลัมน์ Passes
1-Day = ตั๋วเหมาจ่ายรายวัน
7-Day = ตั๋วเหมาจ่ายรายสัปดาห์
Monthly = ตั๋วเหมาจ่ายรายเดือน

แล้วเบสท์ใช้แบบไหนล่ะ?

เบสท์ใช้ทั้ง CharlieCard และ CharlieTicket เลยค่ะ
CharlieCard ใช้ยามฉุกเฉิน เวลาลืมซื้อ CharlieTicket ตอนขึ้นเดือนใหม่ค่ะ
CharlieTicket ใช้ตลอด เพราะต้องขึ้นรถไฟสายม่วง

สำหรับ CharlieTicket ปกติเบสท์ซื้อแบบ Monthly Passes (เหมาจ่ายรายเดือน) Commuter Rail Zone 1A แบบรายเดือน โดยจิ้มที่เครื่องเลือก Passes --> Monthly --> Zone 1A

CharlieTicket
แบบรายเดือน ประจำเดือน พย.14

หมายเหตุ
- CharlieCard ไม่สามารถใช้ขึ้นสายม่วงได้นะคะ เพราะรถไฟไม่มีเครื่องติ๊ดบัตร มีกระเป๋ารถไฟเดินตรวจตั๋วแทนค่ะ
- ถ้าไม่ได้ขึ้นรถไฟสายม่วง แนะนำให้ใช้บัตรแข็งจะสะดวกกว่าค่ะ เพราะบัตรอ่อนเป็นกระดาษแข็งธรรมดา โดนน้ำก็เปื่อยขาด รักษายากค่ะ

จบบริบูรณ์.
ขอบคุณที่อุตส่าห์อดทนอ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ๕๕ บทนี้ยาวมากจริงๆ

Thursday, December 4, 2014

นักเรียนไทย..อยากทำงานที่อเมริกาอย่างถูกกฎหมาย!

นักเรียนไทยที่มาที่อเมริกา อยากทำงานหารายได้ช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน และต้องการทำงานอย่างถูกกฎหมาย ทำได้ค่ะ!

แล้วต้องทำยังไงล่ะ?
เราต้องมี Social Security Number (SSN) ก่อนค่ะ


อะไรคือ SSN?
เบสท์ให้คำนิยามของเจ้าบัตรนี้ว่า "บัตรทำงานต่างด้าว" ค่ะ เจ้านี่จะเป็นส่ิงที่แสดงว่า เราเป็นผู้ทำงานอย่างถูกกฎหมาย โดยทางนายจ้างจะหักภาษีจากรายได้เราให้กับทางรัฐเลย 20%

อ่าว! แล้วงี้จะเอาเจ้านี่มาหักเงินเราเล่นทำไมล่ะเนี่ย???

แต่แล้วเบสท์ก็ค้นพบว่า เจ้านี่มีข้อดีหลายอย่างเลย.. นอกจากจะทำงานถูกกฎหมายแล้ว เรายังสมัครงานร้านฝรั่งได้ ทำงานในโรงเรียนหรือมหาลัยได้ ทำใบขับขี่ได้ เปิดเครดิตการ์ดได้ และที่สำคัญเปิดเบอร์โทรศัพท์ในชื่อตัวเองได้ (ถ้าซื้อ iphone6 แล้วสมัครโปรโมชั่น 2 ปีกับทางค่ายโทรศัพท์ จะได้ราคา $299 จ่ายค่าโทรต่อเดือนก็ถูกลง) อาจมีอย่างอื่นอีกที่เบสท์ไม่รู้
อ่อ.. แล้วเมื่อเราเกษียร จะได้รับเงินเลี้ยงดูจากทางรัฐบาลอเมริกันด้วย:)

นักเรียนที่อยากได้ SSN ต้องทำไง?

หากคุณเป็นนักเรียนที่ถือวีซ่า F-1, M-1, or J-1 (เบสท์ถือ F-1 เผื่ออยากรู้๕๕) ให้ทำตามขั้นตอนนี้นะคะ เบสท์สรุปขั้นตอนจากประสบการณ์ที่เบสท์ไปทำบัตรมาด้วยตัวเอง

1) หางานก่อนค่ะ งานที่ทางนายจ้างจะช่วยเขียนจดหมายขอ SSN ให้เราได้
เช่น โรงเรียนภาษาของเบสท์ เปิดโปรแกรมฝึกงานการตลาด (Marketing Internship Program) เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ให้โอกาสนักเรียน BIA ทุกคนที่สนใจ และจะเลือกมา 4-5คน เท่านั้น เราเลยรีบส่งใบสมัครเลยจ้า ซึ่งต้องเขียน Cover letter & Resume เราก็ใช้ความรู้สดๆจากห้องเรียนเมื่อสัปดาห์ก่อน มาเขียนประวัติสวยๆส่ง โรงเรียนก็รับเข้างานด้วย!
จากนั้น BIA ก็เสนอว่า ถ้าอยากทำ SSN เขาจะช่วย เราก็งงว่ามันคืออะไร ไปถามอากู๋กูเกิลและคนรู้จักทั้งไทยและต่างชาติ เห็นข้อดีมากมายเลย..ตกลง!!!!

2) นายจ้างออกจดหมายให้ ระบุ
  • ตำแหน่งงาน
  • วันเริ่มงาน
  • จำนวนชั่วโมงทำงาน และค่าจ้าง เช่น 4hours/week, Rate: $10.00
  • ชื่อนายจ้าง และ เบอร์โทรนายจ้าง

3) เตรียมหลักฐานดังนี้
๑) Passport หรือสิ่งที่ระบุตัวเราได้ (มีชื่อกับรูป)
๒) I-20 เป็นเอกสารที่ระบุว่า เราเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาในสหรัฐ
๓) จดหมายจากนายจ้าง
๔) โหลด Application จากเว็บมากรอกและปริ้นไปด้วย จะได้ไม่เสียเวลาทั้งตัวเองและคนอื่นๆที่นั่งรอคิวเรา เบสท์แปะลิงก์หน้าตาใบ app ไว้ให้ด้วย -->  http://www.ssa.gov/forms/ss-5.pdf












4) ไปสำนักงาน Social Security Administration ด้วยตัวเอง

สำนักงาน Social Security Administration

กดใบต่อคิวและนั่งรอเขาเรียก

5) เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐาน แล้วเขาจะถามประเภทวีซ่า เคยทำ SSN มาก่อนรึเปล่า จากนั้นก็นั่งรอเขาพิมพ์ข้อมูลจากเอกสารเราลงคอม
6) รับหลักฐานคืนทุกอย่าง ยกเว้น Application และเขาจะให้จดหมายใบนี้มาค่ะ ว่าเราจะได้ SSN ภายใน 2 สัปดาห์
*ขอเซ็นเซอร์ที่อยู่นะคะ เพราะเป็นบ้านของคุณป้า


เมื่อสัปดาห์ก่อนได้รับจดหมายมาแล้ว ตอนนี้เบสท์ก็มี SSN เป็นของตัวเองแล้วค่ะ ทำงานถูกกฎหมายแล้วนะคะ! ขอบคุณโรงเรียน BIA ค่ะ เย่ๆ^^

นอกเรื่อง :)

ตรงนี้ไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับ SSN ของเรา แต่อยากเล่าเรื่องการเดินทางไปสำนักงานเล็กๆ นะคะ


BIA แนะนำให้ไปสาขา Cambridge (หมุด A)

เบสท์ต้องนั่งบัส 66 จากหน้าบ้าน ไปลง Harvard U แล้วก็เดินลงไปสถานีรถใต้ดิน เพื่อต่อบัส 74 หรือ 78 ก็ได้

สถานีรถ Harvard

สถานี Harvard จะมีทั้งรถไฟ และ บัส นะคะ ขวามือจะเป็นรถไฟ ซ้ายมือเป็นบัสค่ะ 
ศูนย์กลางสถานี Harvard






หน้าประตูจะมีตารางบัสให้ดูด้วย



พอเข้าประตูมาก็หาหมายเลขบัส 74 หรือ 78 แล้วยืนรอเวลาไป



เอาลิงก์ทำ SSN มาฝากนะคะ --> http://www.ssa.gov/ssnumber/